ศิลปะการสื่อสารแบบ Minimal Style Communication เมื่อแบรนด์พูดน้อยๆแต่ได้ใจคนฟัง
ตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่ถูกกระหน่ำไปด้วยข้อความ ผู้คนไม่มีเวลาหรือความอดทนเหลือเฟือ สำหรับการฟังอะไรที่ยาวๆหรือเวิ่นเว้ออีกต่อไป แบรนด์ไหนก็ตามที่ใช้คำพูดหรือภาพที่มากเกินไป ก็อาจะจะถูกมองข้ามเอาง่ายๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆอย่าง Gen Z และ Gen Alpha ทำให้เกิด “การสื่อสารสไตล์มินิมอล” (Minimal Style Communication)
เพราะรักแท้หรือแค่ภักดีกับการเข้าใจลูกค้าผ่าน Brand Loyalty และ Brand Love
นักการตลาดมักจะความสำคัญกับ “ลูกค้าที่ภักดี” (Loyalty Customer) ว่าเป็นความสำเร็จสูงสุด แต่ “ความภักดี” (Loyalty) นั้นก็ยังไม่ได้ถึงขั้นของคำว่า “ความรัก” (Love) เพราะลูกค้าที่ภักดีอาจซื้อสินค้าของคุณซ้ำๆ แต่ “ความรักในตัวแบรนด์” (Brand Love) นั้นจะครอบครองพื้นที่ทางอารมณ์ (Emotional) จิตวิทยา (Psychological) และแม้แต่ทางวัฒนธรรม (Cultural) ที่ไม่เหมือนใคร การทำความเข้าใจความแตกต่างและช่องว่างที่ซ่อนอยู่ ระหว่าง “ความภักดีต่อแบรนด์” (Brand Loyalty) และ “ความรักในตัวแบรนด์” (Brand Love)
พลัง Brand Tribe กับเคล็ดลับการสร้างแบรนด์ให้เป็นชุมชนที่ภักดี
การสร้างแบรนด์ (Brading) ในปัจจุบันนั้นเราไม่สามารถขายสินค้า บอกเล่าเรื่องราว สื่อสารภาพลักษณ์ หรือแม้แต่ถ่ายทอดคำมั่นสัญญา ได้เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยหากธุรกิจของคุณต้องการเป็น “แบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุด” (Stong Brand) คุณก็จำเป็นต้องก้าวไปให้ไกลกว่าการซื้อขาย (Purchase) การตลาด (Marketing) การโฆษณา (Advertising) หรือการประชาสัมพันธ์ (Public Relations) ซึ่งนั่น ก็คือ การสร้าง “ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง” (ที่มีพลังมากกว่าคำว่าชุมชน) ที่เป็นที่มามาของแนวคิดที่เรียกว่า “Brand Tribe” หรือ “ชนเผ่า / เผ่าพันธุ์ของแบรนด์” นั่นเอง
สร้างโลกแห่งประสบการณ์ให้กับแบรนด์ด้วย Immersive Experience
หากคุณต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนในปัจจุบัน การทำอะไรแบบเดิมๆอาจไม่ได้ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะผู้บริโภคในยุคใหม่ไม่ได้ต้องการการถูกยัดเยียด ด้วยการขายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการการเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่ง และนี่คือจุดที่การสร้าง “ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ” (Immersive Experience) ได้กลายมาเป็นอาวุธที่สำคัญของการสร้างแบรนด์ (Branding) ตั้งแต่การออกแบบที่กระตุ้นประสาทสัมผัส (Sensory Design)
กลยุทธ์การสร้าง Brand Aura ศาสตร์อันลึกซึ้งให้คนรักแบรนด์แบบไม่รู้ตัว
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสื่อสารผ่านแคมเปญอย่างมากมาย ที่ต่างก็พยายามสร้างความแตกต่างและน่าจดจำให้กับแบรนด์ แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์น่าจดจำอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก หรือคุณสมบัติของสินค้าและบริการ ซึ่งนั่นก็คือเรื่องของ “ความรู้สึก” (Feeling) ที่แม้ว่าจะดูละเอียดอ่อนแต่ก็ “ทรงพลัง” (Powerful) อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และหนึ่งในความรูกสึกอันทรงพลังนี้ ก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Brand Aura ครับ
กลยุทธ์สร้างแบรนด์แบบลึกสุดใจด้วย Sensory Branding ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
ด้วยสภาพตลาดในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างรุนแรง ทำให้แบรนด์ต่างๆต้องต่อสู้กันอย่างหนัก เพื่อแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภค ที่ถูกถาโถมไปด้วยข้อความโฆษณานับร้อยๆชิ้นในทุกๆวัน ทำให้แบรนด์ต้องสร้างความโดดเด่นและเป็นที่จดจำ ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแบรนด์ที่ “ดูดี” เท่านั้น แต่ยังต้องเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์เชิงลึก ให้เกิดกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือที่เราเรียกว่า “Sensory Branding”
อวสานของ Brand Loyalty? เมื่อความภักดีของลูกค้า ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ถือเป็นเคล็ดลับแห่งความสำเร็จทางการตลาด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความไว้วางใจ ความผูกพันทางอารมณ์ และความสัมพันธ์อันยั่งยืนกับลูกค้า แบรนด์ต่างๆ เช่น Coca-Cola, Nike, Apple และ Toyota ได้สร้างอาณาจักรบนรากฐานของแฟนๆที่ภักดี
ความเสี่ยงในการสร้างแบรนด์จากการละเลยเรื่อง Emotional Connection
ในโลกที่เต็มไปด้วยแบรนด์ที่เป็นตัวเลือกมากมาย ทำให้สินค้าและบริการต่างๆอาจดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกันมากเท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้แบรนด์โดดเด่นนั้นไม่ใช่แค่ฟังก์ชันการใช้งานหรือราคาเพียงเท่านั้น แต่คือความผูกพันทางอารมณ์ที่สร้างขึ้นกับลูกค้า (Emotional Connection) หากแบรนด์มองข้ามพลังของความเชื่อมโยงทางอารมณ์ พวกเขาก็จะกลายเป็นเพียงสินค้าแบบทั่วๆไป ที่ยังต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงความสนใจในตลาดอัดแน่นไปด้วยคู่แข่ง โดยแทบที่จะไม่มีความภักดีจากลูกค้าเลย การสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับลูกค้า
พลังของ Nostalgia Marketing กับการเชื่อมโยงผู้คนผ่านเรื่องราวในอดีต
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้ ผู้บริโภคก็ถูกถาโถมด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เทรนด์ที่เกิดขึ้น และเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา แต่ Nostalgia Marketing หรือการตลาดผ่านความทรงจำในอดีต ได้กลับกลายมาเป็นกลยุทธ์อันทรงพลังที่ช่วยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการนำพาผู้คนกลับไปสู่ความทรงจำอันน่าประทับใจในอดีต
5 วิธีเพิ่ม Brand Intimacy สู่แบรนด์อันเป็นที่รัก
Brand Intimacy เกิดจากความรู้สึกที่ลูกค้าเกิดความเชื่อมโยงบางอย่างต่อแบรนด์ และการเชื่อมโยงทางอารมณ์นั้นก็เกิดได้ในทุกๆช่วงของ Customer Journey

 
					 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		