การตลาดแห่งอารมณ์กับ Vibe Marketing เมื่อแบรนด์สื่อสารด้วย Vibe มากกว่าแค่คำพูด

ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว การตลาดมักจะให้ความสำคัญกับ “สิ่งที่คุณพูด” (What you said) เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ ประโยชน์ จุดขาย หรือคำขวัญ จากนั้นก็เข้าสู่ยุคของการเล่าเรื่อง (Storytelling) หรือการให้ความสำคัญกับ “วิธีการที่คุณพูด” (How you said) แต่ในปัจจุบัน เราได้เข้าสู่ยุคใหม่แล้ว นั่นคือ ยุคแห่ง “Vibe” หรือยุคแห่งบรรยากาศและอารมณ์ ที่แบรนด์ต่างๆไม่ได้ถูกตัดสินเพียงแค่จากสิ่งที่พวกเขาอ้าง หรือให้คำมั่นสัญญาอีกต่อไป แต่ถูกตัดสินจาก “วิธีการที่พวกเขาทำให้ผู้คนรู้สึก”


ศิลปะการสื่อสารแบบ Minimal Style Communication เมื่อแบรนด์พูดน้อยๆแต่ได้ใจคนฟัง

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่ถูกกระหน่ำไปด้วยข้อความ ผู้คนไม่มีเวลาหรือความอดทนเหลือเฟือ สำหรับการฟังอะไรที่ยาวๆหรือเวิ่นเว้ออีกต่อไป แบรนด์ไหนก็ตามที่ใช้คำพูดหรือภาพที่มากเกินไป ก็อาจะจะถูกมองข้ามเอาง่ายๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆอย่าง Gen Z และ Gen Alpha ทำให้เกิด “การสื่อสารสไตล์มินิมอล” (Minimal Style Communication)


จิตวิทยาและการตลาดกับ Antifragile Strategy ที่ยิ่งเจอความปั่นป่วนธุรกิจก็ยิ่งเติบโต

ความไม่แน่นอนในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป แต่มันคือเรื่องปกติที่เราเห็นจนเริ่มจะชินกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสภาพและกลยุทธ์การตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมทั้งหมด และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนเร็วขึ้นกว่าที่เคยมีมา แบรนด์บางส่วนก็จากไปภายใต้แรงกดดันดังกล่าว บางส่วนก็แค่เอาตัวรอดในระยะสั้นๆ แต่บางแบรนด์ก็กลับเติบโตได้ดีขึ้นจากความไม่แน่นอนนี้ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นผลมาจาก Antifragile Strategy


triangle
copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์