จากการ Refesh สู่การ Rebrand กลยุทธ์ไหนเหมาะกับธุรกิจมากที่สุด

เมื่อคุณทำธุรกิจไปสักระยะหนึ่ง ก็อาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือปัดฝุ่นให้กับแบรนด์ เพื่อให้ดูมีความทันสมัยหรือตามบริบทต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป และทุกๆแบรนด์นั้นต่างก็มีวงจรเป็นของตัวเอง โดยบางแบรนด์ก็อาจต้องการแค่การปรับปรุงเพียงเล็กน้อย (Brand Refresh) บางแบรนด์อาจต้องเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาดครั้งใหญ่ (Brand Revamp) และบางแบรนด์ก็อาจจำเป็นต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด (Brand Revitalization)


ถอดรหัส Brand DNA กับจุดเริ่มต้นของความแตกต่างอย่างแท้จริง

ในโลกของการสร้างแบรนด์ (Branding) การมี Brand DNA ที่โดดเด่นและชัดเจนนั้น แสดงให้เห็นถึงการมีแก่นแท้ของแบรนด์ (Brand Essence) ในระดับพื้นฐานที่สุด ที่เป็นตัวกำหนดเอกลักษณ์ ลักษณะ และคุณสมบัติโดยเฉพาะ สามารถแปลเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้นำทางธุรกิจ และหากคุณต้องการให้องค์กรของตนเติบโตอย่างยั่งยืน ก็จำเป็นต้องมีการสร้าง Brand DNA ที่แข็งแกร่ง


กลยุทธ์สร้างแบรนด์แบบลึกสุดใจด้วย Sensory Branding ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5

ด้วยสภาพตลาดในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างรุนแรง ทำให้แบรนด์ต่างๆต้องต่อสู้กันอย่างหนัก เพื่อแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภค ที่ถูกถาโถมไปด้วยข้อความโฆษณานับร้อยๆชิ้นในทุกๆวัน ทำให้แบรนด์ต้องสร้างความโดดเด่นและเป็นที่จดจำ ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแบรนด์ที่ “ดูดี” เท่านั้น แต่ยังต้องเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์เชิงลึก ให้เกิดกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือที่เราเรียกว่า “Sensory Branding”


วิธีตั้งชื่อแบรนด์ (Brand Naming) สำหรับธุรกิจแนวรักษ์โลก (Eco-Friendly)

การตั้งชื่อแบรนด์สำหรับธุรกิจสามารถสะท้อนได้หลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัวตน (Identity) สินค้า (Products) และบริการ (Services) ที่นำเสนอ หรือแม้กระทั่งค่านิยมหลัก (Core Values) ที่ยึดถือ โดยชื่อของแบรนด์ (Brand Name) คือ ประตูบานแรกๆที่ลูกค้าจะก้าวผ่านเข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์ของคุณ และเป็นสิ่งแรกๆที่พวกเขาจะจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ การตั้งชื่อแบรนด์สำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจแนวรักษ์โลก (Eco-Friendly Brands) จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


Branding Vocabulary รวมคำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์

การสร้างแบรนด์ (Branding) คือ ศาสตร์ที่มีภาษาเฉพาะตัว ตั้งแต่กลยุทธ์ (Strategy) การเล่าเรื่อง (Narrative) ไปจนถึงการออกแบบและจุดสัมผัส (Touchpoints) ต่างๆ แต่ละคำล้วนมีความหมายปลีกย่อย ที่สามารถกำหนดวิธีที่ผู้คนมองและรู้สึกต่อแบรนด์ของคุณได้ ซึ่งมันก็มีหลากหลายคำศัพท์ที่ค่อนข้างเฉพาะ และเป็นแนวทางในการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและมีความหมาย


จาก Product Branding 1.0 สู่ยุค Digital & Human-Centric Branding 4.0

โลกของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในเรื่องของการตลาด ที่มุ่งไปสู่วิถีของการสร้างแบรนด์แบบยั่งยืน (Sustainable Branding) ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของหลากหลายธุรกิจในปัจจุบัน จากยุคแรกเริ่มของการมีโลโก้และสโลแกนที่เรียบง่ายไปจนถึงการวางกลยุทธ์


ความหมายของสีสำหรับการสร้างแบรนด์

ทุกๆคนมักจะมีสีที่ชื่นชอบเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งมันจะบ่งบอกว่าลึกๆแล้วคุณนั้นเป็นคนอย่างไร มีบุคลิกภาพอย่างไร รวมไปถึงพฤติกรรมของตัวคุณเอง ที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนมุมมองของตัวคุณรวมไปถึงคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ


Brand Guideline ควรมีอะไรบ้าง

Brand Guideline อาจเรียกได้ว่ามันคือคัมภีร์ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ของคุณ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณเข้าใจความเป็นแบรนด์ของคุณ และเข้าใจถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ แนวทางการใช้โลโก้ ข้อความ โทนสี การออกแบบสื่อการตลาด และอื่นๆ


เขียน Tagline อย่างไรให้โดนใจ

Tagline เปรียบเสมือนกับคำพูดอันทรงพลัง ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนับเป็นส่วนประกอบสำคัญในอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) โดย Tagline นั่นก็คือ คำพูดสั้นๆที่หลอมลวมมาจากแก่นแท้ของแบรนด์ บุคลิกภาพของแบรนด์ ตำแหน่งของแบรนด์ รวมไปถึงการมองคู่แข่งของแบรนด์


สร้าง Brand Identity ให้แข็งแกร่ง

อัตลักษณ์ของแบรนด์ นั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนจดจำเป็นอันดับแรกๆ เรียกได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาขององค์กร หรือแบรนด์นั้นๆเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่หน้าตาของโลโก้ การใช้โทนสี การเลือกใช้ตัวหนังสือ รวมไปถึง template ต่างๆ การออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์นั้น ไม่ใช่อยู่ๆคิดจะออกแบบก็ออกแบบกันได้ง่ายๆนะครับ


triangle
copyright 2025@popticles.com
หากท่านต้องการนำเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ไปเผยเพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์